PRP (Platelet-Rich Plasma)

คือกระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้พลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น ซึ่งสกัดจากเลือดของผู้ป่วยเอง โดย PRP มีสารกระตุ้นการเจริญเติบโต (Growth Factors) ที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูรากผม ทำให้เส้นผมที่งอกใหม่มีความหนา แข็งแรงขึ้น และลดการหลุดร่วงได้ รวมถึงช่วยให้รากผมที่อ่อนแอสามารถเจริญเติบโตได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือผมร่วงจากพันธุกรรมหรือจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผลที่ได้คือเส้นผมดูหนาขึ้นและลดความบางของผมในระยะยาว

กลไกการทำงานของ PRP ในการทำให้ผมหนาขึ้นและลดผมร่วง

  • กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
    PRP ช่วยกระตุ้นการทำงานของรากผม ทำให้เส้นผมที่งอกใหม่มีความแข็งแรงและหนาขึ้น
  • ลดการหลุดร่วงของเส้นผม
    PRP ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้รากผม ลดการหลุดร่วงของเส้นผม
  • เพิ่มความหนาแน่นของเส้นผม
    ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมและเพิ่มปริมาณของเส้นผม ทำให้ดูหนาขึ้น
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
    การฉีด PRP ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ ส่งผลให้รากผมได้รับสารอาหารมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนทำ PRP เส้นผม

เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

  1. หลีกเลี่ยงการใช้ยาและผลิตภัณฑ์บางชนิด
    – หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) และยาแก้ ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน ก่อนทำ PRP อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพราะยาประเภทนี้อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือดและลดประสิทธิภาพของ PRP
    – หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีสารเคมีแรง ๆ เช่น ยาย้อมผม หรือสารเคลือบผม ที่อาจทำให้หนังศีรษะระคายเคือง
  2. งดการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
    – งดการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-3 วันก่อนทำ PRP เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่จะลดการไหลเวียนของเลือดและมีผลกระทบต่อการฟื้นฟูรากผม
  3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    – ดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2 แก้วก่อนมาทำ PRP เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและทำให้การเจาะเลือดง่ายขึ้น
  4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
    – ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น วิตามินบี วิตามินซี และธาตุเหล็ก เพราะสารอาหารเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างสุขภาพรากผม
  5. หลีกเลี่ยงการทำทรีทเมนต์หรือการทำผมที่อาจระคายเคืองหนังศีรษะ
    – หลีกเลี่ยงการทำเคมี การย้อม การดัด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการทำ PRP
  6. งดการสระผมในวันที่ทำ PRP
    – แพทย์มักจะแนะนำให้งดการสระผมในวันทำ PRP เพื่อให้หนังศีรษะสะอาดและลดโอกาสการติดเชื้อ
  7. ปรึกษาแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาประจำ
    – หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ PRP เพื่อให้แพทย์พิจารณาว่ายาที่รับประทานอยู่มีผลต่อการทำ PRP หรือไม่

การดูแลหลังทำ PRP เส้นผม

เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาและลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง

  1. งดการสระผมหลังทำ PRP อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
    – หลังการทำ PRP ควรหลีกเลี่ยงการสระผมอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อให้สารกระตุ้นการเจริญเติบโตใน PRP ได้ซึมเข้าสู่รากผมอย่างเต็มที่
  2. . หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่มีสารเคมีแรง ๆ
    – หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่มีสารเคมีแรง ๆ หรือสารกันบูดในช่วง 2-3 วันหลังทำ PRP เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ
  3. งดการสัมผัสหรือถูหนังศีรษะแรง ๆ
    – หลีกเลี่ยงการถูหนังศีรษะแรง ๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองและลดโอกาสการติดเชื้อ
  4. งดการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
    – หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 2-3 วันหลังทำ PRP เพราะเหงื่ออาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองและลดประสิทธิภาพของ PRP
  5. งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
    – ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 วันหลังทำ PRP เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่จะส่งผลต่อการฟื้นฟูรากผม
  6. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
    – ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงในช่วง 2-3 วันแรกหลังทำ PRP เพราะแสงแดดอาจทำให้หนังศีรษะระคายเคือง ควรสวมหมวกหรือป้องกันแสงแดดหากต้องออกนอกบ้าน
  7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
    – รับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพเส้นผม เช่น วิตามินบี สังกะสี และธาตุเหล็ก เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
  8. หลีกเลี่ยงการทำทรีทเมนต์หรือการทำเคมีกับผม
    – งดการทำเคมี เช่น การย้อม ดัด หรือยืดผม อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังทำ PRP เพื่อป้องกันการระคายเคืองของหนังศีรษะและเส้นผมที่ได้รับการรักษา
  9. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    – ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหากมีอาการผิดปกติ เช่น อาการบวม แดง หรือปวดรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์

ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของ PRP

ผลลัพธ์ของ PRP ในการทำให้ผมหนาขึ้นอาจเห็นได้ในระยะ 3-6 เดือนหลังจากการรักษาอย่างต่อเนื่อง และมักแนะนำให้ทำการรักษาหลายครั้งตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น 3-4 ครั้งในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก เพื่อเสริมประสิทธิภาพสูงสุด และทำซ้ำทุก 6-12 เดือนเพื่อรักษาผลลัพธ์

ข้อควรรู้

  • การทำ PRP มักได้ผลดีที่สุดในผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือผมร่วงในระยะแรกเริ่ม หากรากผมถูกทำลายไปมากแล้ว PRP อาจช่วยได้ไม่มาก
  • การทำ PRP มีศักยภาพในการช่วยลดผมร่วงและฟื้นฟูสุขภาพของเส้นผมได้จริง แต่ผลลัพธ์และประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อายุ พันธุกรรม และสาเหตุของผมร่วง

Similar Posts

ใส่ความเห็น